1. ขนมทองหยอด

ใช้ประกอบใน พิธีมงคล ทั้งหลาย หรือมอบเป็น ของขวัญ ใน โอกาสสำคัญ ๆ แก่ผู้ใหญ่ที่เคารพรัก
หรือ ญาติสนิทมิตรสหาย แทน คำอวยพร ให้ ร่ำรวยมีเงินมีทอง ใช้จ่ายอย่างไม่รู้หมดสิ้น ประดุจให้ ทองคำ แก่กัน

ส่วนผสม
ไข่เป็ด 10 ฟอง
แป้งทองหยอด 1/4 ถ้วยตวง
น้ำตาลทราย 7 ถ้วยตวง
น้ำลอยดอกมะลิ 6 ถ้วยตวง

วิธีทำ

1. ผสมน้ำ น้ำตาลทราย ตั้งไฟให้เดือดพอเหนียว ตักน้ำเชื่อมขึ้นไว้สำหรับลอยทองหยอด ที่เหลือตั้งไฟต่อไปให้น้ำเชื่อมเหนียว
2. แยกไข่แดง ไข่ขาว
3. ตีไข่แดงให้ขึ้น ค่อยๆ ใส่แป้งทองหยอดแล้วคนให้เข้ากัน
4. หยอดไข่ที่ตีแล้วลงในน้ำเชื่อมที่ตั้งอยู่บนไฟ ใช้นิ้วชี้และนิ้วกลางเป็นตัวกำหนด ต้องการลูกเล็กหรือใหญ่ตามชอบ นิ้วหัวแม่มือจะเป็นนิ้วที่ช่วยรูดแป้งลงที่ปลายนิ้ว แล้วจึงสะบัดไข่ลงในน้ำเชื่อม
5. เมื่อทองหยอดสุกลอยขึ้น ตักใส่ในน้ำเชื่อมสำหรับลอย

2. ขนมจ่ามงกุฎ

 เป็น ขนม ที่ทำยากมี ขั้นตอนใน การทำ สลับซับซ้อน นิยมทำกันเพื่อ
ใช้ประกอบ พิธีการ ที่สำคัญจริงๆ คำว่า "จ่ามงกุฎ" หมายถึง การเป็น หัวหน้าสูงสุด
แสดงถึงความมี เกียรติยศสูงส่ง นิยมใช้เป็น ของขวัญ ใน งานเลื่อนยศ เลื่อนตำแหน่ง
ถือเป็น การแสดงความยินดี และ อวยพร ให้มีความก้าวหน้า ในหน้าที่การ งาน ยิ่งๆ ขึ้นไป
ส่วนผสมส่วนที่ ๑ (ทองเอก)

แป้งสาลี          ๑          ถ้วยตวง
ไข่แดง             ๑          ถ้วยตวง
น้ำตาลทราย    ๓          ถ้วยตวง
หัวกะทิ            ๒          ถ้วยตวง

ส่วนผสมส่วนที่ ๒ (ลูกกวาดเมล็ดแตงโม)

เนื้อเมล็ดแตงโม        ๓/๔       ถ้วยตวง
น้ำตาลทราย               ๑           ถ้วยตวง
น้ำ                             ๑            ถ้วยตวง
ส่วนผสมส่วนที่ ๓ (แป้งรอง)

แป้งสาลี       ๑        ถ้วยตวง
ไข่แดง         ๓        ฟอง

ส่วนผสมส่วนที่ ๔ (นํ้าเชื่อมข้น)

นํ้าตาลทราย    ๑/๒      ถ้วยตวง
นํ้า                    ๓         ช้อนโต๊ะ
เครื่องแต่ง  ทองคำเปลวสำหรับติดส่วนยอด

วิธีทำส่วนที่ ๑

๑. คนแป้งกับน้ำตาลทรายให้เข้ากันก่อน ในกระทะทอง ทำแป้งเป็นหลุมตรงกลาง
๒. ผสมกะทิลงในไข่แดงทิละน้อยก่อน ให้เข้ากันดี แล้วจึงเติมกะทิส่วนที่เหลือ
๓. เทกะทิผสมไข่ในหลุมแป้ง ๑/๒ ส่วน ใช้ที่ตีไข่มือคนจนแป้งเข้าเป็นเนื้อเดียวกัน จึงเติมกะทิที่เหลือคนให้เข้ากันอีกครั้ง
๔. ยกกระทะขึ้นตั้งไฟค่อนข้างอ่อน กวนจนแป้ง สุกข้น ถ้าสีของไข่อ่อนไปแต่งด้วย (สีอาหาร) สีเหลืองไข่ พองามขึ้น พอขนมเริ่มส่อนจากกระทะ ยกลงจากเตา กวนต่อให้พอปั้นได้
๕. พอเย็นแล้วอบด้วยดอกมะลิ และกระดังงา ค้างคืนไว้
๖. ปั้นเป็นลูกกลม กดให้แบนลงเล็กน้อย ใช้สันมีดกดให้เป็นรอย ๖ รอย คล้ายผลมะตูม
วิธีทำส่วนที่ ๒

๑. ต้มนํ้าตาลกับนํ้าให้เดือด กรองด้วยผ้าขาวบาง
๒. คั่วเมล็ดแตงโมในกระทะทองทีละน้อย พอสุก อย่าให้เหลือง ใช้มือชุบนํ้าเชื่อมกวาดเมล็ดแตงโมไปมา พอน้ำตาลแห้งก็ชุบน้ำเชื่อมกวาดซ้ำอีก จนมีน้ำตาลเป็นหนาม ติดเมล็ดแตงพองาม เก็บใส่ภาชนะไว้อย่าให้ถูกลม
๓. ไฟที่ใช้ค่อนข้างอ่อน ถ้านํ้าตาลติดกระทะ ให้ใช้ผ้าชุบนํ้าเช็ดออกให้หมด ทำจนหมดเมล็ดแตง

วิธีทำส่วนที่ ๓

๑. ผสมแป้งกับไข่ให้เข้ากัน
๒. คลึงออกเป็นแผ่นบางๆ ใช้พิมพ์กลม เส้นผ่าศูนย์กลาง ๒ ซม. ตัด
๓. นำแผ่นแป้งที่ตัดแล้วใส่ลงในถ้วยตะไล กดเบาๆ พอให้ค่อมเล็กน้อย นำออกใส่ถาด อบให้สุกเหลืองนิดหน่อย นำออกผึ่งให้เย็น เก็บใส่กล่องอย่าให้ถูกลม

วิธีทำส่วนที่ ๔

ต้มนํ้าตาลกับน้ำให้ข้นเหนียว เทใส่ภาชนะไว้

วิธีประกอบ

๑. หยิบแป้งรอง (๓) ทาด้วยน้ำเชื่อม (๔) บางๆ นำลูกกวาดเมล็ดแตง (๒) เรียงรอบแป้งที่ปั้นไว้แล้ว (๑) ข้างบนกดเบาๆ เพื่อให้อยู่ตัว
๒. ใช้ทองคำเปลวติดส่วนยอด
สูตรนี้สามารถทำขนมรับประทานได้ ๕-๖ คน
เทคนิคการประกอบ ขนมจ่ามงกุฎ ที่นิยมทำกันในปัจจุบันนี้ที่มองดูเป็นมงกุฎเล็กๆ สวยงามนั้น ต้องใช้ฝีมือ ในการทำประณีตมาก ขนมจะสวยหรือไม่สวยย่อมขึ้นอยู่กับฝีมือของคุณแต่ละบุคคล
ลักษณะที่ดีของขนม ขนมมีชิ้นขนาดเท่ากัน ตัวแป้งด้านในหวานและเหนียว จับตัวกันเป็นก้อนสีเหลืองสด ของไข่แดงทำให้ขนมมีสีสวยขึ้น ตัวแป้งด้านนอกเป็นถ้วย กรอบและแข็ง รสชาติของขนมหวานมัน หอมกลิ่นดอกไม้ที่อบขนม